7.5.57

Independence Day - ID 4 : สงคราม วันดับโลก

Independence Day

ID4 : สงคราม วันดับโลก

เข้าฉาย         :   July 2’ 1996
กำกับโดย      :   Roland Emmerich
นำแสดง        :   Will Smith, Bill Pullman, Jeff Goldblum, Mary McDonnell, Judd Hirsch, Margaret Colin, Randy Quaid, Robert Loggia, James Rebhom, Harvey Fierstein, Vivica A. Fox
รายได้           :   Box Office = $817,400,891    (ทุนสร้าง = $75,000,000 )
ประเภท        :   Action / Sci-Fi / Thriller
ความยาว       :   145 minutes


Independence Day เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีที่ออกฉาย แม้ว่า ณ ขณะนั้นมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่แอตแลนต้า อยู่ด้วย โดยที่ภาพยนตร์สามารถทำสถิติรายได้อันดับหนึ่งใน Box Office ยาวนานถึง 3 เดือน และได้ชนะเลิศรางวัลออสการ์ 1 สาขา คือ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม


Trailers




เนื่องจากภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ในการออกฉายทั่วโลก ทำให้ในปี ค.ศ. 2010 ทีมผู้สร้างได้ประกาศจะสร้างภาคต่อ ของ Independence Day ถึง 2 ภาคด้วยกัน โดยใช้ชื่อว่า "ID4-ever: Part I" หรือ "ID4 Forever" มีกำหนดเข้าฉายในปี 2016 และอีกภาคหนึ่งจะใช้ชื่อว่า "ID4-ever: Part II" (ยังไม่มีกำหนดฉาย) ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก และโรแลนด์ เอ็มเมอริค (ผู้กำกับฯ) ต้องการให้ “วิลล์ สมิธ” กลับมารับบทเดิม แต่มีข่าวว่า สมิธปฏิเสธ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าทางผู้สร้างอาจจะปรับบทให้ ไมเคิล บี. จอร์แดน ซึ่งรับบทเป็นลูกเลี้ยงของสมิธในภาคแรก มารับบทนำนี้แทนก็เป็นได้



เรื่องย่อ . . .


เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับกองทัพมนุษย์ต่างดาว ผู้มาเยือน แบบสงครามจู่โจมไม่ให้ทันตั้งตัว วัตถุประสงค์ คือ เพื่อยึดครองโลก และทำลายล้างเผ่าพันธุ์มวลมนุษยชาติให้สิ้นซาก ปรากฏการณ์ความน่าสะพรึงกลัวได้เริ่มต้นขึ้นจากรหัสลับ  ที่ส่งผ่านจักรวาลมายังโลกโดยยานอวกาศขนาดยักษ์ ซึ่งใช้ดาวเทียมของมนุษย์เจาะเข้ามายังเมืองหลวงของทุกทวีปทั่วโลก


โดยภาพถ่ายจากดาวเทียมปรากฏให้เห็นยานแม่ ขนาดความกว้างกว่า 550 กิโลเมตร หรือ 1 ใน 4 ของดวงจันทร์ และยานแม่ได้ส่งยานลูกนับสิบๆ ลำ โดยแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไมล์ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยประธานาธิบดี วิทมอร์ และคณะรัฐมนตรี ต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์อุกฤษฏ์นี้  จึงมีคำสั่งเบื้องต้นคือ ให้อพยพประชาชนทั้งหมดออกจากเมืองหลวงในทันที


วันที่ 3 กรกฎาคม ผู้กองฮิลเลอร์ และทหารจำนวนหนึ่ง ได้พยายามที่ใช้เครื่องบินรบสู้กับจานบิน แต่จานบินนั้นมีเกราะสนามพลังอยู่ จึงไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย ผู้กองฮิลเลอร์ จึงใช้วิธีหลอกล่อให้จานบินลำหนึ่งไปชนภูเขา และได้นำร่างของมนุษย์ต่างดาวซึ่งสลบอยู่ ไปยังฐานทัพที่เขาเห็นระหว่างบิน โดยที่บนแอร์ฟอร์ซวัน จูเลี่ยน พ่อของเดวิดก็ได้เสนอความคิดเพี้ยนๆ ขึ้นมาถึงเรื่องแอเรีย 51 สถานที่ลับของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่กลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้กลับมีอยู่จริง และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปที่แอเรีย 51 ในขณะนั้นผู้กองฮิลเลอร์ก็มาถึง แอเรีย 51 พร้อมกับร่างของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งทุกคนก็ได้รับรู้ความจริงว่า แอเรีย 51 นั้น ได้เคยมีการจับตัวมนุษย์ต่างดาวไว้ได้ถึง 3 ตัว แต่เสียชีวิตจากยานตกในปี ค.ศ. 1947 พร้อมกับยานต่างดาวอีก 1 ลำ


หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ดร.โอเคน ได้ทำการผ่าตัดมนุษย์ต่างดาวที่ผู้กองฮิลเลอร์จับมาได้ แต่ทว่ามันหลุดรอดออกมาพร้อมสะกดจิตเขาไว้ มนุษย์ต่างดาวได้สื่อสารกับประธานาธิบดีผ่านทาง ดร.โอเคน และได้รู้ว่าพวกมันเหมือนฝูงตั๊กแตนที่อพยพไปเรื่อย ๆ เพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ และเมื่อสูบกินอาหารและทรัพยากรต่าง ๆ จนหมด ก็จะอพยพไปดาวดวงอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งโลกมนุษย์ก็กำลังเป็นเหยื่อต่อไปของพวกมัน มนุษย์ต่างดาวใช้พลังจิตทำร้ายประธานาธิบดี "วิทมอร์" แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย วิทมอร์จึงตัดสินใจสั่งให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เข้าโจมตี แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรจานบินได้เลยแม้แต่น้อย


วันที่ 4 กรกฎาคม ท่ามกลางความสิ้นหวัง เดวิดพยายามหาทางที่จะเจาะระบบเกราะสนามพลังให้ได้ และพบว่าไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถปิดเกราะของจานบินได้ชั่วคราว พวกเขาจึงเตรียมการใช้จานบินลำที่ตกลงมาในปี ค.ศ. 1947 ขึ้นไปอัปโหลดไวรัสบนยานแม่ และวางระเบิดนิวเคลียร์ภายในยาน ส่วนนักบินที่เหลือให้รวมตัวกัน เพื่อรอคำสั่งทำลายยานต่างดาวขณะที่เกราะยังปิดอยู่ โดยใช้รหัสมอสเป็นการสื่อสารแทนดาวเทียมที่ถูกต่างดาวยึดไป และให้ส่งข้อความไปยังฐานทัพทั่วโลกให้รอคำสั่งเข้าโจมตีพร้อม ๆ กัน ทำให้จานบินเกิดปฏิกิริยาเป็นลูกโซ่ และถูกทำลายลงในที่สุด


ความหวังสุดท้ายของโลก คือ การผนึกกองกำลังของผู้รอดชีวิตทั้งหมด ตอบโต้ผู้รุกรานนอกพิภพ เพื่อปกป้องโลก และเหล่ามวลมนุษย์ พร้อมทั้งนำสันติภาพกลับคืนมาให้จงได้ ก่อนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะถึงกาลอวสาน










Ref :
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น